ศรีสะเกษ – พ่อคลุ้มคลั่งลากถังแก๊สเปิดวาล์วจุดไฟเผาบ้านกลางดึก ลูกชายจมูกไวได้กลิ่นวิ่งห้ามถูกกัดเป็นแผลเหวอะ หวิดย่างสดยกครัว

พ่อคลุ้มคลั่งลากถังแก๊สเปิดวาล์วจุดไฟเผาบ้านกลางดึก ลูกชายจมูกไวได้กลิ่นวิ่งห้ามถูกกัดเป็นแผลเหวอะ หวิดย่างสดยกครัว

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.อ.พิชิต ประพาน รอง สว.(สอบสวน) สภ.โพธิ์ศรีสุวรรณ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ที่บ้านเลขที่ 46 หมู่บ้านแสง หมู่ที่ 1 ต.อีเซ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานรถดับเพลิง จากเทศบาลตำบลผือใหญ่ และอบต.เสียว รุดไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบชาวบ้านกำลังช่วยกันระดมถังดับเพลิงเล็ก และพากันใช้ภาชนะตักน้ำช่วยกันสาดเข้าไปยังบ้านที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยามบ้านข้างเคียง ใช้เวลาอยู่นานประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าต้นเพลิงมาจากการที่ นายประดิษฐ์ ขันติวงศ์ อายุ 39 ปี ลูกเขยเจ้าของบ้าน เกิดอาการคลุ้มคลั่งจุดไฟเผาบ้านซึ่งมีแม่ยายและลูกชายอีก 2 คนนอนอยู่ในบ้าน โชคดีทุกคนหนีตายออกมาได้ จึงไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วน นายประดิษฐ์ ผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวไปสงบสติอารมณ์ ที่ สภ.โพธิ์ศรีสุวรรณ เพื่อทำการสอบสวน

นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี เล่าว่า ตนสังเกตเห็นความผิดปกติของพ่อตัวเอง คือ นายประดิษฐ์ ขันติวงศ์ อายุ 39 ปี ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 11 ต.ค. 67 แล้ว โดยพ่อมีใบหน้าสายตาที่แปลกไป กัดฟัน และไม่ค่อยพูด พอเห็นเพื่อนมาเล่นกับตนที่บ้าน ก็ดูเหมือนไม่พอใจ พยายามเข้ามาพูดกับตน กับเพื่อนตน แต่ตนก็ไม่ได้ฟัง ไม่ได้ตั้งใจฟัง กระทั่งช่วงเวลา 02.00 น. เช้ามืดของวันที่ 12 ต.ค. 67 ตนได้ยินเสียงฟูๆ พร้อมได้กลิ่นแก๊สลอยมาเข้าจมูก ตนก็เลยลุกจากที่นอนขึ้นมาดู เห็นพ่อกำลังลากเตาแก๊สออกมาเปิดถังแก๊สเตรียมจุดไฟ และยังเอาโต๊ะโซฟาไม้รับแขก มาวางทับถังแก๊ส ตนจึงวิ่งเข้าไปปิดถังแก๊ส จนเกิดการต่อสู้กัน ตนได้เอาขาล๊อคคอพ่อไว้ พ่อจึงเอาปากกัดที่ต้นขาตน จนเป็นรอยรูปฟัน จากนั้นตนได้พยายามส่งเสียงร้องให้ชาวบ้านช่วย แต่กลางดึกอยู่ในบ้าน ก็ไม่มีใครได้ยิน หลังจากตนโดนพ่อกัดขา ตนก็ปล่อยขาออกพ่อและรีบวิ่งออกมานอกบ้าน จากนั้นพ่อก็จุดไฟเผาบ้านสำเร็จ เพื่อนบ้านข้างเคียงเห็นเหตุการณ์ จึงรีบโทรแจ้งตำรวจ ขอรถดับเพลิงมาช่วย

ขณะที่ น.ส.นิภาวรรณ วงสุโพธิ์ ภรรยาผู้ก่อเหตุ เล่าให้ฟังว่า บ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านของแม่ตน ตอนนี้มี นายประดิษฐ์ สามีตน และลูกชายตน อีก 2 คน อายุ 16 ปี และ 14 ปี ส่วนตนได้ออกไปทำงานรับจ้างที่จังหวัดสุรินทร์ ได้ประมาณ 5 เดือนแล้ว บางครั้ง นายประดิษฐ์ สามีตน เขาก็จะโทรไปหาและมีการพูดคุยกันนิดหน่อย แล้วตนก็จะขอคุยกับลูกมากกว่า เพราะว่าตนไม่อยากคุยด้วย ที่ว่าเขาคลุ้มคลั่งเพราะเกิดความหึงห่วงตนนั้น ตนเชื่อว่าไม่น่าใช่เพราะเรื่องนี้ น่าจะเป็นเรื่องอื่นมากกว่า

ตนเชื่อว่าสาเหตุเกิดจากการเมา ทั้งเมาเหล้าและเสพยาด้วย ตอนอยู่ด้วย ก็รู้ว่าเขาทั้งดื่มเหล้า และเสพยามาโดยตลอด แต่ระยะหลังที่ตนออกจากบ้านไปทำงาน ก็ไม่รู้ว่าเขายังเสพยาอยู่หรือไม่ ตนเชื่อว่าเขาน่าจะไม่ปกติในด้านการมีสติ เรื่องการจะเผาบ้าน เขาเคยพูดมาก่อนหน้านี้แล้ว สาเหตุก็มาจากเขาไม่ทำงาน เอาแต่อยู่บ้านดื่มเหล้า เสพยา ประมาณนี้ ตนก็เคยบอกเขาว่าให้หางานทำ เพราะว่าตนทำงานคนเดียว หามาเลี้ยงจุนเจือครอบครัวไม่ไหว และยังต้องส่งลูกเรียนอีก 2 คน ไม่รู้ว่าเข้าขั้นเป็นผู้ป่วยทางจิตเวชหรือไม่ แต่ก็ไม่เคยไปหาหมอตรวจสักที มีปัญหากันมาตลอด เราบอกเลิก แต่เขาก็ไม่เลิก พยามที่จะข่มขู่จะเผาบ้านตลอด เพราะบ้านนี้เป็นของแม่ตน

ด้าน นายสุวรรณ เนตรเนติกุล นายอำเภอโพธิ์สุวรรณ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ศรีสุวรรณ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดศรีสะเกษ ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมนำถุงยังชีพ น้ำดื่ม และเงินสดส่วนตัวจำนวนหนึ่ง มามอบให้ครอบครัวของเจ้าของบ้าน พร้อมให้กำลังใจต่อให้การณ์ในครั้งนี้

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหากับ นายประดิษฐ์ ผู้ก่อเหตุ “กระทำให้เกิดเพลิงไหม้ แก่โรงเรือนที่คนอยู่อาศัย จนน่าจะเป็นอันตราย แก่บุคคลอื่น หรือทรัพย์สินของผู้อื่น” และข้อหา “ทำร่ายร่างกายบุตร จนได้รับบาดเจ็บ” ส่วนการเสพยา รอผลตรวจปัสสาวะ อย่างละเอียดอีกครั้ง.

ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน